ฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดจุดไหนดี? แก้ริ้วรอยกี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดจุดไหนดี? แก้ริ้วรอยกี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบลดริ้วรอยเป็นหัตถการเสริมความงามที่ผู้คนหลายช่วงอายุวัยต่างก็ให้ความสนใจ เพราะเป็นหัตถการลดเลือนริ้วรอยที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ผิวหน้ากระชับเรียบเนียนขึ้น รวมถึงมีความปลอดภัยมาก ในปัจจุบันการนำโบท็อกมาใช้รักษาปัญหาริ้วรอยจึงเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือการขยับกล้ามเนื้อเพื่อแสดงสีหน้า 

  • ฉีดโบลดริ้วรอยเป็นการนำสารพิษจาก Clostridium botulinum ที่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อฉีดเข้าที่บริเวณที่มีริ้วรอยจากการขยับของผิว ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและผิวขยับได้น้อยลง
  • สามารถฉีดโบลดริ้วรอยได้หลายจุดบนในหน้าและผิวส่วนอื่น เช่น ระหว่างคิ้ว, ตีนกา, หน้าผาก, ใต้ตา, ร่องแก้ม ฯลฯ
  • หลังฉีดโบลดริ้วรอยจะเริ่มตึงและขยับผิวบริเวณที่ฉีดได้ลำบากขึ้น โดยจะออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 1-2 อาทิตย์หลังฉีด เมื่อแสดงสีหน้า ผิวบริเวณที่ฉีดจะไม่ขยับจนเกิดริ้วรอยขึ้น
  • ฉีดโบลดริ้วรอยจะไม่ให้ผลถาวร โดยจะให้ผลลัพธ์นาน 4-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลตนเองหลังฉีดโบลดริ้วรอย

โบท็อกลดริ้วรอย คืออะไร?

โบท็อกลดริ้วรอย (Botox for facial wrinkles) คือ การฉีดสาร Botulinum toxin A ที่เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum มีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดโบท็อกบริเวณริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว จะสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ ได้

ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยได้จริงไหม มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของสาร Botulinum toxin A หลังจากฉีดเข้าไปยังบริเวณริ้วรอยพบว่า สาร Botulinum Toxin จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงภายใน 48-72 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ 1-2 สัปดาห์ ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดเริ่มคลายตัวและจางลง โดยกล้ามเนื้อจะอ่อนแรงนาน 4-6 เดือน เมื่อขยับใบหน้าหรือแสดงสีหน้าต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดการพับของผิว ดังนั้น การฉีดโบท็อกจึงสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้ 
สำหรับการฉีดโบลดริ้วรอยจะเห็นผลชัดเจนในการแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ หรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว, การเลิกคิ้ว, ริ้วรอยตีนกา, การยิ้ม, ริ้วรอยร่องแก้ม เป็นต้น แต่ถ้าหากเป็นปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากกระดูกทรุดตัว อาจจะต้องแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์หนุนในชั้นผิว เพราะสารเติมเต็มในฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้มากกว่าการฉีดโบลดริ้วรอย

ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร มีกี่แบบ?

ริ้วรอยบนใบหน้าเป็นปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยจะเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีเป็นต้นไป แต่ถ้าเราสังเกตดี ๆ ก็เริ่มเห็นริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้าในจุดที่มีการขยับหรือแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เมื่อมีอายุมากขึ้นริ้วรอยตื้น ๆ สามารถพัฒนาเป็นริ้วรอยร่องลึกได้ เนื่องจากโครงสร้างของผิวอ่อนแอลง กระบวนการทำงานในร่างกายเริ่มช้าลง ผิวหนังผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ส่งผลให้ผิวขาดความแข็งแรง ผิวจึงมีริ้วรอยง่ายขึ้น
สาเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้ามีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนี้
ปัจจัยภายใน

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น : ร่างกายจะผลิตสารที่ช่วยให้ผิวหนังดูเต่งตึงและชุ่มชื้นได้น้อยลง เช่น อีลาสติน คอลลาเจน กรดไฮยาลูรอน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเริ่มเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
  • การแสดงสีหน้า : การแสดงสีหน้าบางท่าที่ทำซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานสามารถเป็นต้นเหตุของริ้วรอยได้ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว เป็นต้น

ปัจจัยภายนอก

  • แสงแดด : การเผชิญกับแสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนและเส้นใยยืดหยุ่นในชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความยืดหยุ่นจนนำไปสู่ริ้วรอยร่องลึกได้


โดยริ้วรอยสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ริ้วรอยร่องตื้น

ริ้วรอยร่องตื้นเกิดจากผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้ง สาเหตุจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ เช่น อากาศเย็น อยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน

ริ้วรอยร่องลึก

ริ้วรอยร่องลึกเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน เกิดเป็นรอยพับหรือรอยย่น สามารถมองเห็นเป็นร่อง รวมไปถึงคนที่มักแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การขมวดคิ้ว, การยักคิ้ว, การเลิกหน้าผาก, การยิ้ม เป็นต้น

โบท็อกลดริ้วรอยฉีดจุดไหนได้บ้าง?

การฉีดโบลดริ้วรอยในปัจจุบันผู้คนมักฉีดเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าต่าง ๆ เพื่อให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวหน้าเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น โดยบริเวณที่สามารถฉีดโบริ้วรอยมีดังนี้

โบท็อกลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว

ริ้วรอยระหว่างคิ้วหรือรอยย่นระหว่างคิ้ว เป็นริ้วรอยที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมากและเป็นจุดแรกที่ผู้คนมักสังเกตเห็น การฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วจะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังส่วนบนเรียบเนียนขึ้น สำหรับตำแหน่งระหว่างคิ้วเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก จึงควรฉีด botox ริ้วรอยกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ฉีดเท่านั้น

โบท็อกลดริ้วรอยตีนกา หรือโบท็อกหางตา

ปัญหาริ้วรอยตีนกา หรือปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอบหางตาเกิดจากการหดเกร็งซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน สามารถเกิดขึ้นได้จากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้มหรือการหัวเราะ รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ผิวบางและยืดหยุ่นน้อยลง จึงเกิดเป็นริ้วรอยตีนกาหรือริ้วรอยหางตาขึ้น การฉีดโบลดริ้วรอยตีนกาสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้

โบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก

ฉีดโบท็อกหน้าผากสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย หรือรอยพับบริเวณหน้าผากได้ ซึ่งเกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การเลิกคิ้ว, การยิ้ม, การหัวเราะ รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น

โบท็อกลดริ้วรอยใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยใต้ตาหรือริ้วรอยรอบดวงตา เป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด การฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง แต่ข้อควรระวังคือ หากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ดูตาแข็งได้ ดังนั้น ควรเลือกฉีดโบลดริ้วรอยกับแพทย์เฉพาะทาง

โบท็อกลดริ้วรอยร่องแก้ม

ริ้วรอยร่องแก้ม หรือรอยย่นที่แก้มมีสาเหตุหลักมาจากการหย่อนคล้อยของผิว การฉีดโบท็อกร่องแก้มสามารถทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลงได้ แต่โบท็อกร่องแก้มจะใช้ได้กับผู้ที่มีร่องแก้มตื้น ๆ เท่านั้น หากผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกควรเปลี่ยนมาแก้ไขปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแทน

ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันถึงจะเห็นผล

ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล? หลังฉีดโบลดริ้วรอยจะเริ่มออกฤทธิ์ 3-4 วัน และจะรู้สึกตึงเต็มที่บริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยฉีดโบลดริ้วรอยจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน นอกจากนี้ ผลลัพธ์ของโบท็อกลดริ้วรอยขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดด้วย เนื่องจากแต่ละจุดมีการออกฤทธิ์ที่ต่างกันเล็กน้อย และยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ รวมถึงการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกอีกด้วย
ในเรื่องของการฉีดโบท็อกซ้ำเมื่อตัวยาสลายหมดแล้ว และต้องการคงผลลัพธ์ไว้ ควรเว้นการฉีดโบท็อกประมาณ 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างนานเกินไป (มากกว่า 6 เดือน) เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติได้ ที่สำคัญคือ ไม่ควรฉีดซ้ำถี่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้