ปัญหาถุงใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งคนที่อายุน้อยไปจนถึงคนที่มีอายุมาก ถุงใต้ตามีลักษณะเป็นถุงนูนออกมาบริเวณใต้ดวงตา จนเห็นว่าใต้ตาบวม เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบดวงตาและถุงไขมันใต้ตา
หลายคนจึงมองหาวิธีลดถุงใต้ตา เพราะการมีถุงใต้ตาทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และดูมีอายุ ไม่สดใส ในคนที่เป็นภูมิแพ้ อาจจะมีใต้ตาคล้ำที่เกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว ทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นถุงใต้ตาได้เช่นเดียวกัน
ถุงใต้ตา คืออะไร ?
ถุงใต้ตา (Eye bags) คือ ถุงไขมันที่อยู่บริเวณใต้ดวงตา หรือบริเวณเบ้าตาด้านล่าง จะมีทั้งหมด 5 ถุง คือ เปลือกตาบน 2 ถุง ใต้เปลือกตาล่าง 3 ถุง จุดที่มักเป็นปัญหาเป็นถุงใต้ตาบวมใหญ่ขึ้นมาคือ ถุงกลาง (Middle Fat) และบางส่วนของถุงไขมันที่อยู่ด้านใน (Inner Fat)
ลักษณะของถุงใต้ตา บริเวณขอบตาล่างจะมีถุงนูนออกมา หรือมีอาการบวมปูด ตุ่ยที่รอบตาล่าง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีอายุเท่านั้น
ในคนที่พบถุงใต้ตาตั้งแต่อายุยังน้อย มีถุงนูนออกมาบริเวณใต้ดวงตา จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและแก่กว่าวัย ซึ่งแตกต่างจากดอลลี่อายที่จะทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
นอกจากนี้ในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจจะมีปัญหาใต้ตาหรือขอบตาสีคล้ำร่วมด้วย จากสาเหตุที่เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายใหญ่ ส่งผลให้บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นถุงใต้ตาได้เช่นกัน
ถุงใต้ตา บอกโรคอะไรได้บ้าง ?
แม้การมีถุงใต้ตาจะเป็นปัญหาด้านความงามมากกว่า แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคบางชนิดได้เช่นกันครับ ในบางคนที่รู้สึกว่าถุงใต้ตาบวมขึ้น ทั้งที่อายุยังไม่มาก อาจมาจากสาเหตุของไตหรือหัวใจที่อ่อนแอ อีกทั้งยังบ่งบอกว่าร่างกายเริ่มเหนื่อยล้า สาเหตุจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีอาการภูมิแพ้ร่วมด้วย
ถุงใต้ตากับดอลลี่อาย แตกต่างกันอย่างไร ?
หลายคนสับสนระหว่างถุงใต้ตากับดอลลี่อาย แต่จริง ๆ แล้ว เป็นคนละส่วนกัน แม้ดอลลี่อายจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับถุงใต้ตา แต่คนจะนิยมทำให้ตัวเองมีดอลลี่อายเพื่อให้หน้าดูเด็ก เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ความงามที่เคยได้รับความนิยม
การทำดอลลี่อาย จะทำบริเวณกล้ามเนื้อใต้ตา สามารถทำดอลลี่อายโดยฉีดฟิลเลอร์บริเวณขอบตาล่างให้หนาขึ้น ในจุดนี้จะทำให้ดวงตากลมโตขึ้น ใบหน้าดูเด็กลง
ถุงใต้ตา กับ ขอบตาคล้ำ เหมือนกันไหม ?
ในส่วนของขอบตาคล้ำ ที่หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นถุงใต้ตา จริง ๆ แล้วไม่ใช่ถุงใต้ตาที่เกิดจากถุงไขมันครับ หากสังเกตดี ๆ ในคนที่มีปัญหาขอบตาคล้ำ จะมองเห็นเส้นเลือดดำที่ขยายตัวบริเวณใต้ตา ทำให้ขอบตาดูคล้ำ และบวมขึ้นเล็กน้อย พบได้ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง หรือผู้ที่มีพฤติกรรมชอบขยี้ตาบ่อย ๆ หรือในบางเคสอาจเกิดจากกรรมพันธ์ุ
ถุงใต้ตาบวม เกิดจากอะไร ?
ถุงใต้ตาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น อายุมากขึ้นถุงไขมันใต้ตาและหนังใต้ตาหย่อนคล้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิแพ้ มีการระคายเคือง และการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการบวม
สำหรับคนที่ต้องการรักษาถุงใต้ตา ต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดถุงใต้ตาของตนเองก่อน เพื่อใช้เป็นแนวทางรักษา การเกิดถุงใต้ตาครับ โดยปัญหาถุงใต้ตาจะแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุ หลัก ๆ คือ
- ปัญหาถุงใต้ตาแท้
มีลักษณะเป็นถุงป่องนูนบริเวณใต้ตา เกิดจาก
- 1.1 พันธุกรรมหรือระบบต่อมไร้ท่อที่ทำงานผิดปกติ : มีลักษณะเป็นถุงป่องนูนบริเวณใต้ตา ทำให้ไขมันมารวมกันบริเวณใต้ตามากเกินไป เกิดอาการบวมหรือคั่งน้ำของถุงไขมันใต้ดวงตา
- 1.2 อายุที่มากขึ้น : มีลักษณะเป็นถุงใต้ตาหย่อนคล้อย จากผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ไขมันจึงเคลื่อนตัวลงมา
- ปัญหาถุงใต้ตาเทียม
ถุงใต้ตาเทียม คือ ปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การขยี้ตา การร้องไห้หนัก ๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไป และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมไปถึงเรื่องของระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี ทำให้เกิดการบวมน้ำบริเวณใต้ตา เป็นถุงใต้ตาบวมขึ้นมา
ถุงใต้ตาบวมข้างเดียว เกิดจากอะไร ?
อาการถุงใต้ตาบวมข้างเดียว อาจเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) หรือการติดเชื้อครับ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสก็ได้ ซึ่งมักมาด้วยอาการไข้ ปวด บวมแดง ต้องรักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อ
ถุงใต้ตาในคนสูงอายุเกิดจากอะไร
ถุงใต้ตาในผู้สูงอายุ สาเหตุหลักมาจากการเสื่อมสภาพของผิว เพราะเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลงทำให้เนื้อเยื่อที่พยุงถุงไขมันบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อยลง ในรายที่ถุงใต้ตามีขนาดใหญ่ อาจรุนแรงถึงขั้นดึงเปลือกตาลง ทำให้เปลือกตาล่างปลิ้นออกมา (Ectropion) ส่งผลให้คนไข้ที่สูงอายุ มีน้ำตาไหลเองได้
วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ ลดความหมองคล้ำ
วิธีลดถุงใต้ตาด้วยวิธีธรรมชาติ แบบไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ไขได้บางสาเหตุครับ โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาจากสาเหตุของถุงใต้ตาเทียม เช่น การพักผ่อนน้อย พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง รวมไปถึงอาหารบางประเภทที่รับประทานเข้าไป โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีธรรมชาติเหล่านี้
1. ลดถุงใต้ตาด้วยถุงชา
ถุงชาวิธีเบสิกที่หลาย ๆ คนทราบกันดีครับว่าช่วยแก้ขอบตาดำ ช่วยผ่อนคลายผิวบริเวณรอบดวงตาจากการใช้สายตาหนัก ๆ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ถุงชาที่ใช้แล้วแบบอุ่น ๆ สามารถแก้ปัญหาถุงใต้ตาเทียม ช่วยลดอาการใต้ตาบวมได้ด้วย วิธีการคือประคบบนเปลือกตา หรือใต้ตาทั้งสองข้างปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จะช่วยให้อาการของถุงใต้ตาค่อย ๆ ลดลง เพราะในใบชามีสารที่เรียกว่า แทนนินและคาเฟอีนที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการบวมลง
2. ลดถุงใต้ตาด้วยการประคบเย็น
ถุงใต้ตาที่บวมจากการระคายเคือง พักผ่อนน้อย หรือดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ การประคบเย็น เป็นวิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติที่ทำได้ง่าย ๆ สามารถใช้น้ำแข็ง หรือผ้าเย็นประคบบริเวณรอบดวงตาได้เลย หรือบางคนอาจจะใช้ช้อนแช่เย็นก็ได้ครับ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีก็จะช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น ยุบบวมลงได้ กรณีนี้ หมอแนะนำให้ระวังเรื่องของความสะอาด
ถ้าน้ำแข็ง ช้อน หรือผ้าไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาเกิดการระคายเคืองและบวมยิ่งกว่าเดิมได้
3. ลดถุงใต้ตาด้วยพักผ่อนให้เพียงพอ
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ มีถุงใต้ตา หรือตาบวม มักมาจากการนอนพักผ่อนน้อย ใครที่อดนอนบ่อย ๆ จะมีปัญหานี้แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดอาการตาบวม หน้าโทรมจากถุงใต้ตาได้
4. การทาครีมบำรุง ช่วยลดถุงใต้ตา
การดูแลตัวเองด้วยการทาครีมบำรุง เช่น อายเจล ครีมบำรุงใต้ตา ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาเทียมได้ครับ แต่ก็ต้องใช้ความสม่ำเสมอในการทาครีม เป็นวิธีที่ใช้เวลานานและเห็นผลไม่ชัดเจน ต้องทาครีมควบคู่กับการดูแลตัวเองด้วย เช่น งดดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนให้เพียงพอ
การรักษาถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์
การแก้ปัญหาถุงใต้ตาที่เป็นลักษณะของถุงใต้ตาแท้ ปัจจุบันมีหัตถการแพทย์หลายรูปแบบที่ช่วยแก้ไขได้ ซึ่งมีทั้งการ ผ่าตัดและไม่ผ่าตัด โดยให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาโดยการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มในชั้นกระดูกใต้ตา ที่ยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น ผิวที่เคยเกาะอยู่บริเวณนั้นหย่อนคล้อยลงเป็นก้อนใหญ่ใต้ตา เมื่อเติมฟิลเลอร์เข้าไปจะทดแทนในส่วนที่ยุบลง จะช่วยลดถุงใต้ตาหรือทำให้เห็นถุงใต้ตาน้อยลงได้