ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร
คือ สารเติมเต็ม ฟิลเลอร์เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเราอยู่แล้ว จึงมีปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ และไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสามารถสลายไปเองได้โดยไม่เหลือสารตกค้าง ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกต่างๆ ทั่วใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น ขมับตอบ แก้มตอบ ร่องใต้ตาและช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวมีมิติ
ตำแหน่งที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้
- สันจมูก ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งเติมสันจมูกให้ดูโด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติหากไม่อยากทำศัลยกรรม
- ใต้ตา ฉีดเติมเต็มเบ้าตา ร่องน้ำตาลึก หรือแก้ไข้ให้ถุงใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
- ตีนกา เติมร่องตีนกาให้ตื้นขึ้น
- รอยลึกร่องแก้มและร่องน้ำหมาก เป็นจุดที่ฉีดแล้วทำให้หน้าดูเด็กลงได้หลายปี
- คาง คนคางสั้นสามารถเติมคางให้ดูเรียวยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- หน้าผาก ทำได้ทั้งลดริ้วรอยที่เป็นเส้นย่นๆ และเติมให้หน้าผากดูนูนเป็นทรงสวย
- ริมฝีปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มเป็นทรงขึ้น รวมถึงสามารถฉีดลดริ้วรอยเล็กๆรอบริมฝีปากได้
- รอยหลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
- คอและบริเวณเนินอก ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนกระชับมากขึ้น
- หลังมือ ลดเลือนริ้วรอยทำให้ผิวหนังเรียบเนียนเต่งตึง จะได้ไม่ฟ้องอายุที่แท้จริง
ฟิลเลอร์ เติมจุดไหนยี่ห้ออะไร? และควรใช้กี่ซีซี?
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรฉีดยี่ห้อ Restylane Vital Light เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่มมาก เหมาะที่จะใช้เติมใต้ตาจะทำให้ใต้ตาไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เนียนละมุนเป็นธรรมชาติ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc - ฟิลเลอร์ขมับ
ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc - ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มร่องต่างๆ ได้ดี ซึ่งจะทำให้ใบหน้าเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc - ฟิลเลอร์แก้มส้ม
ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มแก้มให้อิ่มเต็มขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ หรือใบหน้าไม่มีมิติได้ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 2-4 cc - ฟิลเลอร์ปาก
ควรฉีดยี่ห้อ Restylane Vital Light เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่มมาก เหมาะที่จะใช้เติมปากให้อิ่มสวย ได้รูปทรงที่ต้องการ จะทำให้ปากไม่ดูแข็ง ไม่เป็นก้อน อวบอิ่มกำลังดี โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc - ฟิลเลอร์คาง
ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว สามารถปั้นคางให้เป็นทรงต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยที่เป็นร่องลึก
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ร่องน้ำตาลึก ใต้ตาลึกทำให้ดูคล้ำ
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขฝีปากไม่ได้รูป หรือริมฝีปากบาง
- ผู้ที่ต้องการเติมส่วนต่างๆ บนใบหน้า เช่น จมูก หน้าผาก คาง
- ผู้ที่มีปัญหารอยหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวชุ่มชื้นดูฉ่ำน้ำ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- หยุดยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ
- งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3วัน
- สุขภาพร่างกายปกติดี ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ล้างเครื่องสำอางค์ก่อยพบแพทย์
การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์
- ไม่ควรจับ ลูบคลำ นวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของยา
- หลังฉีด 24 ชั่วโมง งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทพให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้รอบเข็มหายช้าลง
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 วันแรกหลังฉีดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด
- งดการออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรงเช่น การอบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น การนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- การอาบน้ำอุ่นเป่าผมและโดนแสงแดด สามารถทำได้ปกติฟิลเลอร์คาง ทำแล้วหน้าเรียวเหมือนผ่าตัดไหม !
6 ข้อแนะนำคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์หลายครั้งอันตรายไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์แก้ขมับตอบได้จริงมั้ย ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
ใต้ตาลึกเกิดจากอะไร ทำไมถึงต้องใช้ฟิลเลอร์ช่วย !
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ !
เหตุผลที่ต้องเลือก ฟิลเลอร์ Restylane !
เติมเต็มริมฝีปาก ด้วยฟิลเลอร์ปากกระจับ ที่ Amenla Clinic