ยิ้มแล้วมีร่องแก้ม ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย แก้ยังไง ?

“ยิ้มแล้วมีร่องแก้ม” ปัญหาที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปค่ะ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ปัญหานี้ร่องแก้มนี้ก็สามารถทำส่งผลต่อใบหน้าและความมั่นใจของผู้ประสบปัญหาอยู่มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ดูแก่กว่าวัย รวมไปถึงไม่มีความมั่นใจเวลาที่ยิ้มเพราะกังวลว่าร่องแก้มจะปรากฏขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้มนั้นสามารถแก้ได้

ยิ้มแล้วมีร่องแก้ม สาเหตุและทางออกเพื่อรอยยิ้มที่มั่นใจ มีวิธียังไง ?

ปัญหาร่องแก้ม หรือ รอยย่นที่แก้ม โดยส่วยใหญ่มักเกิดจากปัจจัยด้านอายุค่ะ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนและอิลาสติน (Elastin) ใต้ผิวก็จะเริ่มเสื่อมสภาพทำให้เกิดหย่อนคล้อยบนใบหน้า โดยริ้วรอยที่เห็นได้ชัดและเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของผู้หญิงนั่นก็คือ ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม เพราะทำให้ดูมีอายุกว่าความเป็นจริง นอกจากปัจจัยด้านอายุแล้ว ริ้วรอยร่องแก้มยังเกิดจากพฤติกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การไม่ทาครีมกันแดดทำให้ใบหน้าโดนทำลายด้วยแสง UV การสูบบุหรี่เป็นประจำทำให้ส่งผลต่อโครงสร้างผิว และในบางรายที่มีเนื้อบริเวณใต้ตาเยอะ หรือแก้มเยอะๆ ก็อาจทำให้เนื้อตรงส่วนนั้นหย่อนคล้อยลงมาจนทำให้เกิดร่องลึกที่ไม่สวยงามได้ 

รอยร่องแก้มเกิดจากอะไร?

ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณร่องแก้ม หรือ รอยย่นที่ร่องแก้ม ปัญหาของผู้หญิง ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจนั้นมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหาของผิวที่ขาดคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งสารอาหารทั้งสองสิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และกระจ่างใส เมื่อเวลาผ่านไปอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสตินมีปริมาณน้อยลงหรือเสื่อมสภาพ ผิวบริเวณนั้นก็จะเกิดรอยยับย่น ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนที่มีอายุมากเท่านั้นนะคะ แม้แต่ในสาว ๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะบางคนอาจจะขาดการดูแลตัวเอง เช่น ไม่ทาครีมบำรุง ตากแดดบ่อย ๆ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็สามารถส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพได้

ไขข้อสงสัย! ทำไมเวลายิ้มแล้วจึงทำให้เกิดร่องแก้ม ?

สาเหตุของการที่ทำให้เกิดร่องแก้มเวลาเรายิ้มนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น…

1.การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า

เพราะเวลาที่เรายิ้ม กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าของเรา เช่น กล้ามเนื้อยกมุมปาก (Zygomaticus major) และกล้ามเนื้อรอบปาก จะเกิดการหดตัวและดึงเนื้อเยื่อบริเวณแก้มให้ยกขึ้น ซึ่งการดึงและการกดทับนี้ทำให้เกิดรอยพับที่เห็นเป็นร่องแก้มชัดเจนขึ้นนั่นเอง

2.โครงสร้างใบหน้า

เพราะร่องแก้มเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตามธรรมชาติที่เกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างผิวหนัง เนื้อเยื่อไขมัน และกระดูกใบหน้า การเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การยิ้ม จะทำให้รอยพับนี้เด่นชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

3.ความยืดหยุ่นของผิวหนัง

เมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของผิวจะลดลงเนื่องจากการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ทำให้ร่องแก้มที่เคยตื้นในวัยหนุ่มสาวกลายเป็นร่องลึกที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อแสดงอารมณ์ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รอยร่องแก้มจะปรากฏขึ้นเมื่อเรายิ้ม

4.การเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อไขมัน

ชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณแก้มจะมีการเคลื่อนตัวและลดลงตามอายุ ทำให้แก้มดูหย่อนคล้อย และร่องแก้มดูชัดเจนขึ้นแม้ไม่ได้ยิ้มก็ตามค่ะดังนั้น การเกิดร่องแก้มเวลายิ้มจึงเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ โครงสร้างใบหน้า และการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามอายุค่ะ อย่างไรก็ตาม จากสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา ทุกคนจะเห็นได้แล้วว่า แม้จะเป็นเพียงปัญหาร่องและริ้วรอยของผิว แต่ก็ส่งผลต่อใบหน้าของเราอย่างชัดเจน โดยเฉพาะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องหาแนวทางแก้ไข หนึ่งในนั้นคือการเข้ารับหัตถการ “ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม” ที่ได้ผลจริงและปลอดภัย

“ฟิลเลอร์ร่องแก้ม” วิธีแก้แบบได้ผลจริง! จะยิ้มได้อย่างมั่นใจ ไม่เผยร่องรอยให้เห็น

สำหรับใครที่ไม่อยากให้ริ้วรอยบริเวณแก้มเกิดขึ้นมาเร็ว สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ การทาครีมบำรุงเป็นประจำ (ถึงแม้ว่า สาว ๆ หลายคนจะรู้สึกขี้เกียจที่ต้องลุกขึ้นมาทาครีมบำรุง แต่เชื่อหมอโบเถอะค่ะ ว่ามันดีกับผิวเราจริง ๆ ) อย่าลืมทากันแดดด้วยนะคะ อันนี้สำคัญมากลืมไม่ได้เด็ดขาด การทาครีมกันแดดนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องทาเฉพาะตอนที่ต้องออกไปเจอแดดนอกบ้านเท่านั้นนะคะ เพราะรังสี UV นั้นไม่ได้มีเฉพาะที่แดดค่ะ แต่มีแฝงอยู่ในทุก ๆ ที่ เช่น ในที่ร่ม ในอาคาร แสงจอคอม แสงจากโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากค่ะนอกจากนี้ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทานอาหารหวาน และอาหารสำเร็จรูปมากเกินไป อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดไม่น้อยกว่าวันละ 2 ลิตรด้วย เพราะน้ำจะช่วยเติมให้ผิวมีความชุ่มชื้น ช่วยให้คอลลาเจนในผิวหนังมีความยืดหยุ่น ไม่แก่ก่อนวัยค่ะ ซึ่งวิธีที่กล่าวมานี้จะเห็นผลมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ในวัย 20 – 25 ปี แต่สำหรับสาวใหญ่ที่มีอายุ 30 – 35 ปี วิธีนี้อาจจะได้ผลไม่มาก เนื่องจากช่วงอายุที่มากกว่า และปริมาณการผลิตคอลลาเจนในร่างกายมีการผลิตน้อยลงสู้สาว ๆ ไม่ได้ ดังนั้นหากต้องการให้ใบหน้าสวยเนียน เด้งเป๊ะ อาจจะต้องใช้ตัวช่วยดี ๆ อย่าง “ฟิลเลอร์” เข้าช่วยเหลือ

 

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์นั้นเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบที่สำคัญจากสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) มีหน้าที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยส่วนต่าง ๆ ได้ทั้งริ้วรอยลึกและตื้นให้ดูดี ผิวเรียบเนียน มีความเด้งดึ่ง เต่งตึง ฉ่ำน้ำ ทำให้ในปัจจุบันนิยมใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาให้หลากหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น รอยย่น ริ้วรอยรอบดวงตา รอยหมองคล้ำใต้ตา เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ปรับโครงหน้า เสริมคาง เติมขมับ แถมยังปลอดภัย 100% เพราะสารไฮยาลูโรนิคแอซิดสามารถสลายตัวได้ภายใน 6 เดือน – 2 ปี (แล้วแต่ปริมาณที่ฉีดและการดูแลตัวเองของคนไข้) ทำให้มั่นใจว่าไม่มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ในร่างกายแน่นอน

อยากฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องฉีดอย่างไร?

สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยลึกตรงร่องแก้ม จะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ และวิเคราะห์โครงหน้าก่อนว่าต้องใช้การฉีดแบบใด เพราะใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มจะใช้วิธีการฉีด 2 แบบ ด้วยกัน คือ

  1. ฉีดหนุนที่บริเวณกระดูกร่องแก้ม : วิธีนี้แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพื่อเสริมให้ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น หรือในบางรายที่มีเนื้อใต้ตาเยอะ กระดูกร่องแก้มเสื่อมสภาพลง ตัวฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปหนุนร่องลึกตรงจุดนี้ แล้วดึงผิวหนังให้ตึงขึ้น ร่องแก้มที่ลึกก็จะตื้นขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด
  2. ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง : สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะจุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มเกิดริ้วรอย รอยย่น หรือรอยพับของผิวหนังบนใบหน้า ซึ่งการฉีดด้วยวิธีนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ และกำหนดบริเวณที่ต้องฉีด เพื่อให้ได้ผลแม่นยำ และแก้ปัญหาร่องลึกได้ตรงจุดที่สุด

ซึ่งนี่เป็นเพียงขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ ซึ่งแต่ละสถานที่ให้บริการอาจมีมากหรือน้อยกว่านี้ตามมาตรฐานของแต่ละที่ 

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีผลข้างเคียงหรือไม่?

ในการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่อร่างกาย หากใช้ผลิตภัณฑ์ของฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพและตามมาตรฐาน อย. ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาอยู่แล้ว ทำให้ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกายและยังสามารถสลายตัวไปเองได้ภายใน 1-2 ปี (แล้วแต่บุคคล) แต่สำหรับผู้ที่ฉีดแล้วพบว่าเกิดอาการบวม หรือคลำเจอก้อนหลังฉีดก็ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ เพราะอาการบวมนั้นสามารถยุบได้เอง และจะกลับมาเนียนเรียบแบบเดิมในที่สุด 

วิธีดูแลตัวเอง “ก่อน”ทำการฉีดฟิลเลอร์

  • ควรงดทานยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ และหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาจำพวกนี้ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนหยุดทานนะคะ
  • งดการทานวิตามินบางชนิด เช่น  St. Johns Wort, ginko biloba,Vitamin E เวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ
  • หยุดการแว็กซ์ผิว ผลัดผิว หรือการดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนมาทำ
  • ห้ามนวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ อย่างน้อย 3 วัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
  • ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายแบบ Cardio

ดูแลตัวเอง “หลัง” ทำการฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ
  • อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
  • งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดนวดหน้า ทรีทเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการเสริมความงามเฉพาะทาง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลีนิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญการด้านผิวหนังโดยเฉพาะ สิ่งที่ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดว่าได้มาตรฐานและเป็นของแท้หรือไม่ ควรสอบถามหรือตรวจสอบด้วยตนเองทุกครั้ง เพราะการใช้ฟิลเลอร์แท้ รวมถึงแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะไม่เกิดความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงตัวผู้ฉีดเองก็จะมั่นใจได้ว่าใบหน้าของเราจะสวยงาม ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยตามที่ต้องการด้วย

“Belotero” ฟิลเลอร์ตัวท็อปจากสวิตเซอร์แลนด์

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?

ควรรู้อะไรบ้างก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

13 เรื่องน่ารู้ฉีดก่อนฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขริ้วรอยร่องแก้มได้ทุกกรณีจริงหรือเปล่า ?

6 คำถามฮิต ฟิลเลอร์ใต้ตา !!

ถาม – ตอบ เรื่องโบท็อกซ์ !!!

รวมสิ่งที่ควรรู้ ก่อนฉีดโบท็อกซ์

บอกต่อเรื่องเรื่องสำคัญ ของ โบท็อกซ์

ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการที่เป็นมากกว่าการเสริมความงาม

โบท็อกซ์คืออะไร ข้อดี-เสีย ของการฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์คืออะไร ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ ?

Ultraformer iii กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร ดีไหม ?

Ultraformer III กกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิว

อายุเท่าไหร่ควรเริ่มฉีด Botox !?

รู้ก่อนฉีด ฟิลเลอร์คืออะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?