Sculptra คืออะไร?

สำหรับใครที่อยากกลับมาหน้าเด็ก อ่อนเยาว์ มีปัญหาผิวหลวม หย่อนคล้อย ผิวยืดย้วยไม่กระชับ แล้วยังไม่รู้จะทำหัตถการไหนดี หรือทำมาหลายโปรแกรมแล้ว แต่ผิวหน้ายังไม่ดีขึ้น Sculptra จะตอบโจทย์การฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาดูแน่น เต่งตึงเหมือนเด็กอีกครั้ง  “Sculptra”  กำลังโด่งดังมาก ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน ขึ้นแท่นเป็นผลิตภัณฑ์ตัวโปรดในดวงใจของใครหลาย ๆ คน

Sculptra คืออะไร?

Sculptra เป็นโปรแกรมฟื้นฟูคอลลาเจนให้ผิว The First & Original Collagen Biostimulator ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากสารวิเคราะห์สุดล้ำ นำเข้ามาโดยบริษัท Galderma  ตอบโจทย์สำหรับคนไข้ที่ผิวหลวม หย่อนคล้อย ผิวยืดย้วยไม่กระชับโดย Sculptra คืออนุภาคของกรดที่ชื่อ PLLA (Poly-L-Lactic-Acid) จัดอยู่ในกลุ่มของ Collagen Biostimulator สารสังเคราะห์จากพืชตัวแรกและตัวเดียวในโลก ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกาและถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 เป็นที่นิยมมากๆ ในต่างประเทศ เป็นสารที่ฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ สามารถฉีดเข้าไปในตำแหน่งเฉพาะใต้ชั้นผิวหนัง และกระจายไปทั่วผิวหลังจากการฉีด Sculptra อนุภาพขนาดเล็กของ PPLA นั้นจะทำหน้าที่เพิ่มปริมาณไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นกำเนิดของคอลลาเจน ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน Type 1 ใหม่มากกว่า 66.5% ใต้ชั้นผิวหนัง เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวภายใน โดยคอลลาเจน Type 1 นั้นถือเป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดบนผิวหน้าเลยก็ว่าได้ภายใน 1-3 เดือนหลังการทำ Sculptra ผิวหน้าจะดูแน่น กระชับ ดูอ่อนเยาว์เด็กลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ผิวกระชับหลังจากได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก และถึงแม้เวลาผ่านไป PLLA จะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ Sculptra จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ยาวนานถึง 25 เดือน ! 

Sculptra มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

Sculptra จะมีลักษณะเป็นผง จะต้องผสมด้วย Sterile water เขย่าให้เข้ากันเพื่อฉีดเข้าไปในผิวหนังชั้น Subcutaneous ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นไขมันชั้นลึก เพราะหากฉีดในผิวหนังชั้นตื้นจนเกินไป อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ก้อนตุ่มนูนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง (Nodule) เป็นต้นหลังการฉีด Sculptra นั้น ปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไปจะทำให้ผิวของคุณดูเติมเต็มในทันที โดยหลังจากการฉีด 2-3 วัน ริ้วรอยและร่องลึกจะกลับมาอีกครั้ง เหมือนตอนก่อนฉีด เพราะน้ำและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ฉีดเข้าไปจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra เท่านั้น แต่อนุภาคเหล่านั้นจะเริ่มกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีการส่งสัญญาณไปยังเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เข้ามารวมตัวกันมากขึ้นซึ่งไฟโบรบลาสต์นั้นเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่ช่วยในการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรง และมีความกระชับมากยิ่งขึ้น โดยอนุภาคของ Sculptra นั้นจะค่อย ๆ หายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่สะสมเพิ่มมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงให้กับผิวหนังได้ในระยะยาว และช่วยยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนานได้ถึง 25 เดือน !

Collagen สำคัญอย่างไร? มีส่วนช่วยผิวได้อย่างไร?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า คอลลาเจน (Collagen) เป็นสิ่งที่หลายคนต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาภายนอก หรือรับประทานเพื่อบำรุงจากภายใน โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง มีสัดส่วนมากถึง 80% ช่วยให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่น และเรียบเนียน ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อโดยร่างกายของคนเราจะมีคอลลาเจนอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่จะมี 3 ชนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่

    • คอลลาเจน Type 1 เป็นคอลลาเจนที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง พบได้มากที่สุดในร่างกายตามผิวหนังและเส้นเอ็น
    • คอลลาเจน Type 2 เป็นคอลลาเจนที่มีเส้นใยหลวมกว่า Type 1 พบตามกระดูกและข้อต่อ
    • คอลลาเจน Type 3 เป็นคอลลาเจนที่แข็งแรงน้อยกว่า Type 1 พบได้ตามผิวหนังและหลอดเลือด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป หากเราเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป โครงสร้างกระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามการสลายของไขมันและกระดูกบนใบหน้า กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะเริ่มลดลง ร่างกายจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวปีละ 1-2% ทำให้ใบหน้าตอบ ไม่สดใส และเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป ร่างกายจะยิ่งผลิต Collagen ลดน้อยลงไปอีก ส่งผลให้ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกาย เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการพยุงโครงสร้างของผิว

การฉีด Sculptra เข้าไป จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติ โดยตามผลการวิจัยนั้น Sculptra สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน Type 1 เพิ่มมากขึ้นสูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน

Sculptra เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวบาง ผิวไม่แน่น ดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ดูมีอายุ และมีหลุมสิว
  • ผู้ที่มีความกังวลเรื่องรอยยับบนใบหน้า
  • ผู้ที่ผ่านการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อก เลเซอร์ Ultraformer มาแล้ว แต่ยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาผิว
  • ผู้ที่อยากมีผิวแน่นอิ่มฟู แข็งแรง และดูอ่อนเยาว์ลง
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนาน

Sculptra ต้องใช้กี่ซีซี? ฉีดกี่ครั้งจึงเห็นผล? และอยู่ได้นานแค่ไหน?

ปริมาณของ Sculptra ที่จะต้องใช้จะขึ้นอยู่กับอายุของคนไข้ โดยทุก ๆ ช่วงอายุ 10 ปี ควรจะใช้  Sculptra 1 ขวด (10 ซีซี) ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอายุ 40 ปี จะต้องใช้ทั้งหมด 4 ขวด โดยการฉีด Sculptra นั้น จะเป็นการฉีดเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งจะมีการแบ่ง Session ในการฉีดออกเป็น 2-3 Session ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คนไข้ต้องใช้ค่ะหลังจากทำครบคอร์สแล้ว ผลลัพธ์หลังการได้รับ Sculptra จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือประมาณ 25 เดือน ! โดยมีรายงานจากผู้ใช้จริงว่า Firm Skin 89% ผิวกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Radiant Skin 91% ผิวกระจ่างใสและดูโกลว์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Natural Younger-Looking Skin 89% ผิวหน้าแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
และหากคนไข้รู้สึกว่า อยากฉีด Sculptra เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวกระชับเข้าไปอีก ก็สามารถเติมได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ เพียงแต่ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือนทุกครั้งก่อนจะฉีดสาร Sculptra เข้าไปใหม่ โดยข้อดีของการฉีด Sculptra ในทุก ๆ เดือนนั้น จะช่วยทำให้คอลลาเจนภายในผิวแน่นขึ้นเรื่อย ๆ 

การนวดหน้าหลังฉีด Sculptra ช่วยอะไรบ้าง?

การฉีด Sculptra อย่างเดียวอาจจะไม่พอ คุณต้องมีวิธีดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้องด้วย เพื่อทำให้ผิวหน้าของคุณนั้นดูอ่อนเยาว์ขึ้นสุด และคงประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน 
โดยวิธีการนวดหน้าหลังการฉีด Sculptra นั้นจะช่วยให้ตัวยากระจายตัวในตำแหน่งที่ถูกต้อง และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การนวดหน้าจึงสำคัญอย่างมาก และห้ามลืมทำโดยเด็ดขาดค่ะ !

วิธีการนวดหลังฉีด Sculptra

ขั้นตอนที่ 1 : ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง และใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปทางขมับด้านข้าง
ขั้นตอนที่ 2 : ใช้นิ้วหัวแม่มือขึ้นแนบบริเวณแก้มทั้งสองข้าง ค่อย ๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกัน
ขั้นตอนที่ 3 : ใช้อุ้งมือกดบริเวณช่วงข้างแก้มแล้ว ค่อย ๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นไปด้านบนจนถึงโหนกแก้ม ทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้งขั้นตอนที่ 4 : ทำมือลักษณะเดียวกันกับขั้นตอนที่ 2 บริเวณคาง แล้วค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปตามแนวกราม

ฉีด Sculptra ปลอดภัยหรือไม่?

Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์กู้ผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ ที่มีงานวิจัยตีพิมพ์แล้วกว่า 50 ฉบับ 📚 โดยงานวิจัยนั้นรับรองว่า
✳️ หลังการฉีด Sculptra ช่วยให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ในผิวเพิ่มมากขึ้นกว่า 66.5% 
✳️ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น
✳️ เป็นผลิตภัณฑ์ Collagen Biostimulator ตัวแรกและเป็นตัวเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองจาก US FDA
✳️ มีความปลอดภัยสูง และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ทั้งนั้น แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์อย่างมาก เพราะการฉีด Sculptra จะต้องฉีดใต้ชั้นผิวหนังอย่างถูกต้องด้วยเทคนิคเฉพาะ และเป็นต้องใช้เข็ม Canula เฉพาะในการฉีดเท่านั้น

หลังฉีด Sculptra มีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีอาการระบมทั่วหน้า บวม แดง ช้ำ มีอาการปวดเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด คล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่หากมีตุ่มนูนหรือก้อนเล็ก ๆ (Nodule) ที่สัมผัสได้ใต้ผิวหนัง ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะการนวดหน้าหลังการฉีด จะช่วยให้อนุภาคที่ฉีดเข้าไปไม่เกาะกลุ่มกันเป็นก้อน และทำให้ตุ่มนูนดังกล่าวหายไปได้ค่ะ
โดย Sculptra สามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย อีกทั้ง Sculptra ยังเป็น Collagen Biostimulator สารสังเคราะห์จากพืชตัวแรกและตัวเดียวในโลก ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา จึงสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยต่อร่างกายหลังการฉีด

เตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra ต้องทำอย่างไร?

การเตรียมตัวก่อนมาทำหัตถการนี้ จะคล้ายกับการทำหัตถการอื่น ๆ ทั่วไป ได้แก่

    • เว้นระยะการทำหัตถการอื่น ๆ 2-4 สัปดาห์ก่อนการฉีด Sculptra
    • งดยาและวิตามินต่างๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนมาทำหัตถการเพื่อลดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก รวมถึงลดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยค่ะ
      • ควรงดยาแก้ปวด ยาแอสไพริน หรือ NSIADs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, Ponstan และควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยานั้น
      • ควรงดวิตามินจำพวกเพิ่มการไหลเวียนของเลือด วิตามินที่ละลายในไขมันต่างๆ  รวมถึงวิตามินที่อยู่ในเม็ด Soft gel และกลุ่มสมุนไพรต่างๆ เช่น Grape seed, Gingko biloba, Evening primrose oil, Fish oil, Vitamin E, Collagen เป็นต้น
    • ต้องไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือหากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง โดยผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ควรรับประทานยาก่อนมาทำหัตถการ เป็นต้น
    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมงก่อนการทำหัตถการ

หลังฉีด Sculptra ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?

หลังการฉีด Sculptra คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องทำการพักฟื้นแต่อย่างใด โดยมีข้อแนะนำหลังการฉีด Sculptra ดังนี้