ไขทุกข้อสงสัย ตอบทุกคำถาม เกี่ยวกับ “ฟิลเลอร์”

ไขทุกข้อสงสัย ตอบทุกคำถาม เกี่ยวกับ “ฟิลเลอร์”

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

สารเติมเต็มผิวที่นำมาใช้ในการเติมริ้วรอย ร่องลึก และรอยย่นต่างๆ บนใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์มุ่งเน้นการเพิ่มปริมาตรตามจุดต่างๆ เช่น โหนกแก้ม คาง และมักใช้ในการเติมเต็มริมฝีปาก ทำให้ปากอวบอิ่ม แต่อย่างไรก็ดีควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA (Food and Drug Administration – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เช่น ฟิลเลอร์ที่ประกอบด้วยกรดไฮยาลูรอนิค (hyaluronic acid) คอลลาเจน และ calcium hydroxylapatite

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์!!

  1. ฉีดกับแพทย์การเลือกแพทย์ผู้ทำหัตถการถือว่ามีสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะบางจุดหากฉีดผิดวิธีอาจเกิดผลเสียได้ ซึ่งคุณหมอกันมีความรู้ในการปรับรูปหน้าให้สวยงามด้วยฟิลเลอร์และการฉีดไขมันเติมเต็ม ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่พึงพอใจ และมาใช้บริการตลอดอย่างต่อเนื่อง
  2. ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้นต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าคลินิกที่เราเลือกนั้นใช้ฟิลเลอร์ของแท้หรือไม่ ซึ่งทางYKJ Medical clinic คุณหมอจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพจากเกาหลี อเมริกา และยุโรป ซึ่งได้รับการรับรอง มีเอกสารกำกับที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot และความปลอดภัยได้ เนื่องจากคุณหมอกันตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้ และไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกายในภายหลัง
  3. ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรการฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่คนนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยแก้ไขรูปหน้าที่มีริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึง เนียนเรียบ ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ จึงดูตื้นขึ้นและจางลง ซึ่งเหมาะกับทุกวัยที่มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม, ใต้ตา, มุมปาก, ขมับ และคาง อีกทั้งช่วยเสริมในเรื่องของโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
  4. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และจะเห็นผลลัพธ์ 100% หลังฉีดไป 4-5 วัน
  5. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติและอายุการสลายแตกต่างกันออกไป โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน

     

    ฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

    การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่คนนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อแก้ไขรูปหน้าที่มีริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบ ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ จึงดูตื้นขึ้นและจางลง ซึ่งเหมาะกับทุกวัยที่มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องแก้ม, ใต้ตา, มุมปาก, ขมับ และคาง

ฟิลเลอร์ (Filler) สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับคนไข้ว่ามีปัญหาหรือริ้วรอยตรงจุดไหน หรือต้องการเติมเต็มบริเวณใด ซึ่งโดยปกติแล้วบริเวณใบหน้าหมอแนะนำ 6 จุด ซึ่งจะช่วยให้หน้าดูเด็ก ดูอ่อนวัยมากขึ้น ได้แก่บริเวณใต้ตา, หน้าผาก, ขมับ, ปาก, คาง และร่องแก้ม

ประเภทของฟิลเลอร์

ในทางการแพทย์ ฟิลเลอร์ (Filler) หมายถึง สารฉีดเติมเต็ม (Injectible Filler) ซึ่งในต่างประเทศมีหลายประเภท มีอะไรบ้างตามมาดูเลยกันครับ

  1. HA (Hyaluronic Acid) เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมและมีความปลอดภัยมากที่สุด สามารถย่อยสลายได้ และสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อยๆ มีใช้แพร่หลายทั่วโลก
  2. คอลลาเจน (Collagen) เป็นคอลลาเจนจากสัตว์ ในปัจจุบันไม่นิยมเท่าที่ควร เนื่องจากบางคนอาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เกิดรอยบวมแดงขึ้นได้ง่าย
  3. เติมไขมัน (Transplanted Fat) เป็นเทคนิคที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มครั้งละจำนวนมาก ประมาณ 5 ซีซี ขึ้นไป
  4. Biosynthetic polymers หรือกลุ่มซิลิโคนเหลว เช่น Calcium hydroxylapatite, polymethylmethacrylate ซึ่งกลุ่มนี้เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่สลายได้ไม่หมด หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น “ฟิลเลอร์ปลอม” ไม่ปลอดภัย ไม่ผ่าน อย. จึงไม่แนะนำให้ใช้

สำหรับประเทศไทย คนส่วนใหญ่เข้าใจความหมายและใช้คำว่า “ฟิลเลอร์” โดยหมายถึงเพียงข้อที่ 1 ซึ่งก็คือ “HA (Hyaluronic Acid)” ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย และแนะนำให้ใช้ได้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  1. คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิก, คุณหมอที่ทำหัตถการ, ชนิดของสารเติมเต็ม และเทคนิคที่คุณหมอใช้ เพื่อมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และไม่มีผลข้างเคียงตามมาทีหลัง
  2. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรงดยาแอสไพริน, Diclofenac, น้ำมันปลา และสารสกัดจากใบแปะก๊วย เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่อาจส่งผลให้บวมช้ำง่าย และบวมนานกว่าปกติ ทั้งนี้สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว และต้องทานยาในกลุ่มนี้เป็นประจำควรปรึกษาคุณหมอก่อนครับ
  3. ก่อนวันฉีดฟิลเลอร์ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากจนเกินไป

การเตรียมตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. ลูกค้าสามารถแต่งหน้ามาได้ตามปกติ เนื่องจากทางคลินิกจะลบเครื่องสำอางค์เฉพาะบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น
  2. ก่อนฉีดทางคลินิกจะทำความสะอาดเครื่องสำอางค์จากริมฝีปากก่อน และทำความสะอาดอีกรอบด้วยเบตาดีนเพื่อฆ่าเชื้อ
  3. ระหว่างการฉีดจะทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย เมื่อผ่านเข็มแรกก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลย เนื่องจากยาชาที่ผสมอยู่ในฟิลเลอร์ออกฤทธิ์
  4. จะมีรอยเข็มในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายได้เองภายใน 24 ชม.

การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์

 

  1. หลังฉีดเสร็จงดทาเครื่องสำอางค์รวมถึงครีมบำรุงบริเวณที่ฉีด ประมาณ 24 ชั่วโมง
  2. ช่วงแรกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มร้อนจัด รวมทั้งความร้อนต่างๆ เช่น เตาปิ้งย่าง แสงแดดที่ร้อนจัด ไดร์เป่าผม น้ำอุ่น และอบซาวน่า
  3. หากมีอาการบวมช้ำสามารถประคบเย็นได้ หรือหากมีอาการปวดก็สามารถรับทานยาแก้ปวดได้ สำหรับคุณหมอกันจะมีเทคนิคในการฉีดอย่างเบามือ และฉีดถูกตำแหน่ง ไม่มีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
  4. งดการออกกำลังกายอย่างหนักใน 2 วันแรก รวมทั้งงดการกด นวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้
  5. ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู สวย และเติมเต็มมากขึ้น
  6. ควรนอนหมอนสูงในช่วง 3-4 วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์คงรูปก่อน แต่ด้วยเทคนิคการฉีดของคุณหมอกัน ทำให้ฟิลเลอร์ไม่ไหล ไม่ผิดรูป 

“Belotero” ฟิลเลอร์ตัวท็อปจากสวิตเซอร์แลนด์

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?

ควรรู้อะไรบ้างก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

13 เรื่องน่ารู้ฉีดก่อนฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขริ้วรอยร่องแก้มได้ทุกกรณีจริงหรือเปล่า ?

6 คำถามฮิต ฟิลเลอร์ใต้ตา !!

ถาม – ตอบ เรื่องโบท็อกซ์ !!!

รวมสิ่งที่ควรรู้ ก่อนฉีดโบท็อกซ์

บอกต่อเรื่องเรื่องสำคัญ ของ โบท็อกซ์

ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการที่เป็นมากกว่าการเสริมความงาม

โบท็อกซ์คืออะไร ข้อดี-เสีย ของการฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์คืออะไร ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ ?

Ultraformer iii กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร ดีไหม ?

Ultraformer III กกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิว

อายุเท่าไหร่ควรเริ่มฉีด Botox !?

รู้ก่อนฉีด ฟิลเลอร์คืออะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?