ไขทุกข้อสงสัย ตอบทุกคำถาม เกี่ยวกับ “ฟิลเลอร์”
ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?
สารเติมเต็มผิวที่นำมาใช้ในการเติมริ้วรอย ร่องลึก และรอยย่นต่างๆ บนใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์มุ่งเน้นการเพิ่มปริมาตรตามจุดต่างๆ เช่น โหนกแก้ม คาง และมักใช้ในการเติมเต็มริมฝีปาก ทำให้ปากอวบอิ่ม แต่อย่างไรก็ดีควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA (Food and Drug Administration – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เช่น ฟิลเลอร์ที่ประกอบด้วยกรดไฮยาลูรอนิค (hyaluronic acid) คอลลาเจน และ calcium hydroxylapatite
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์!!
- ฉีดกับแพทย์การเลือกแพทย์ผู้ทำหัตถการถือว่ามีสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะบางจุดหากฉีดผิดวิธีอาจเกิดผลเสียได้ ซึ่งคุณหมอกันมีความรู้ในการปรับรูปหน้าให้สวยงามด้วยฟิลเลอร์และการฉีดไขมันเติมเต็ม ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่พึงพอใจ และมาใช้บริการตลอดอย่างต่อเนื่อง
- ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้นต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าคลินิกที่เราเลือกนั้นใช้ฟิลเลอร์ของแท้หรือไม่ ซึ่งทางYKJ Medical clinic คุณหมอจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพจากเกาหลี อเมริกา และยุโรป ซึ่งได้รับการรับรอง มีเอกสารกำกับที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot และความปลอดภัยได้ เนื่องจากคุณหมอกันตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้ และไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกายในภายหลัง
- ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรการฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่คนนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยแก้ไขรูปหน้าที่มีริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึง เนียนเรียบ ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ จึงดูตื้นขึ้นและจางลง ซึ่งเหมาะกับทุกวัยที่มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม, ใต้ตา, มุมปาก, ขมับ และคาง อีกทั้งช่วยเสริมในเรื่องของโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
- ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และจะเห็นผลลัพธ์ 100% หลังฉีดไป 4-5 วัน
- ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติและอายุการสลายแตกต่างกันออกไป โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่คนนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อแก้ไขรูปหน้าที่มีริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบ ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ จึงดูตื้นขึ้นและจางลง ซึ่งเหมาะกับทุกวัยที่มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องแก้ม, ใต้ตา, มุมปาก, ขมับ และคาง
ฟิลเลอร์ (Filler) สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับคนไข้ว่ามีปัญหาหรือริ้วรอยตรงจุดไหน หรือต้องการเติมเต็มบริเวณใด ซึ่งโดยปกติแล้วบริเวณใบหน้าหมอแนะนำ 6 จุด ซึ่งจะช่วยให้หน้าดูเด็ก ดูอ่อนวัยมากขึ้น ได้แก่บริเวณใต้ตา, หน้าผาก, ขมับ, ปาก, คาง และร่องแก้ม
ประเภทของฟิลเลอร์
ในทางการแพทย์ ฟิลเลอร์ (Filler) หมายถึง สารฉีดเติมเต็ม (Injectible Filler) ซึ่งในต่างประเทศมีหลายประเภท มีอะไรบ้างตามมาดูเลยกันครับ
- HA (Hyaluronic Acid) เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมและมีความปลอดภัยมากที่สุด สามารถย่อยสลายได้ และสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อยๆ มีใช้แพร่หลายทั่วโลก
- คอลลาเจน (Collagen) เป็นคอลลาเจนจากสัตว์ ในปัจจุบันไม่นิยมเท่าที่ควร เนื่องจากบางคนอาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เกิดรอยบวมแดงขึ้นได้ง่าย
- เติมไขมัน (Transplanted Fat) เป็นเทคนิคที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มครั้งละจำนวนมาก ประมาณ 5 ซีซี ขึ้นไป
- Biosynthetic polymers หรือกลุ่มซิลิโคนเหลว เช่น Calcium hydroxylapatite, polymethylmethacrylate ซึ่งกลุ่มนี้เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่สลายได้ไม่หมด หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น “ฟิลเลอร์ปลอม” ไม่ปลอดภัย ไม่ผ่าน อย. จึงไม่แนะนำให้ใช้
สำหรับประเทศไทย คนส่วนใหญ่เข้าใจความหมายและใช้คำว่า “ฟิลเลอร์” โดยหมายถึงเพียงข้อที่ 1 ซึ่งก็คือ “HA (Hyaluronic Acid)” ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย และแนะนำให้ใช้ได้
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิก, คุณหมอที่ทำหัตถการ, ชนิดของสารเติมเต็ม และเทคนิคที่คุณหมอใช้ เพื่อมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และไม่มีผลข้างเคียงตามมาทีหลัง
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรงดยาแอสไพริน, Diclofenac, น้ำมันปลา และสารสกัดจากใบแปะก๊วย เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่อาจส่งผลให้บวมช้ำง่าย และบวมนานกว่าปกติ ทั้งนี้สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว และต้องทานยาในกลุ่มนี้เป็นประจำควรปรึกษาคุณหมอก่อนครับ
- ก่อนวันฉีดฟิลเลอร์ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากจนเกินไป
การเตรียมตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
- ลูกค้าสามารถแต่งหน้ามาได้ตามปกติ เนื่องจากทางคลินิกจะลบเครื่องสำอางค์เฉพาะบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น
- ก่อนฉีดทางคลินิกจะทำความสะอาดเครื่องสำอางค์จากริมฝีปากก่อน และทำความสะอาดอีกรอบด้วยเบตาดีนเพื่อฆ่าเชื้อ
- ระหว่างการฉีดจะทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย เมื่อผ่านเข็มแรกก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลย เนื่องจากยาชาที่ผสมอยู่ในฟิลเลอร์ออกฤทธิ์
- จะมีรอยเข็มในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายได้เองภายใน 24 ชม.
การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์
- หลังฉีดเสร็จงดทาเครื่องสำอางค์รวมถึงครีมบำรุงบริเวณที่ฉีด ประมาณ 24 ชั่วโมง
- ช่วงแรกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มร้อนจัด รวมทั้งความร้อนต่างๆ เช่น เตาปิ้งย่าง แสงแดดที่ร้อนจัด ไดร์เป่าผม น้ำอุ่น และอบซาวน่า
- หากมีอาการบวมช้ำสามารถประคบเย็นได้ หรือหากมีอาการปวดก็สามารถรับทานยาแก้ปวดได้ สำหรับคุณหมอกันจะมีเทคนิคในการฉีดอย่างเบามือ และฉีดถูกตำแหน่ง ไม่มีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดการออกกำลังกายอย่างหนักใน 2 วันแรก รวมทั้งงดการกด นวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้
- ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู สวย และเติมเต็มมากขึ้น
- ควรนอนหมอนสูงในช่วง 3-4 วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์คงรูปก่อน แต่ด้วยเทคนิคการฉีดของคุณหมอกัน ทำให้ฟิลเลอร์ไม่ไหล ไม่ผิดรูป
“Belotero” ฟิลเลอร์ตัวท็อปจากสวิตเซอร์แลนด์
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?
ควรรู้อะไรบ้างก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
13 เรื่องน่ารู้ฉีดก่อนฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขริ้วรอยร่องแก้มได้ทุกกรณีจริงหรือเปล่า ?
ถาม – ตอบ เรื่องโบท็อกซ์ !!!
รวมสิ่งที่ควรรู้ ก่อนฉีดโบท็อกซ์
บอกต่อเรื่องเรื่องสำคัญ ของ โบท็อกซ์
ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการที่เป็นมากกว่าการเสริมความงาม
โบท็อกซ์คืออะไร ข้อดี-เสีย ของการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์คืออะไร ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ ?
Ultraformer iii กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร ดีไหม ?
Ultraformer III กกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิว
อายุเท่าไหร่ควรเริ่มฉีด Botox !?
รู้ก่อนฉีด ฟิลเลอร์คืออะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?