โบท็อกลดกรามได้จริงไหม ลดได้นานแค่ไหน !!

โบท็อกลดกรามได้จริงไหม ลดได้นานแค่ไหน !!

หลายคนอาจมีปัญหากรามใหญ่อันเนื่องมาจากกรรมพันธุ์หรือพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ทำให้กรามต้องใช้งานหนัก และกลายเป็นปัญหาบนใบหน้าที่ทำให้ใครหลายคนขาดความมั่นใจในตัวเอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีลดกรามที่ทั้งไม่ต้องเจ็บตัวมากนักและใช้เวลาเห็นผลลัพธ์ไม่นาน โบท็อกลดกรามจึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ว่าแต่โบท็อกจะช่วยลดกรามได้จริงไหม ลดได้นานแค่ไหน ควรดูแลตัวเองอย่างไรดี 

โบท็อกลดกรามคืออะไร

เป็นการฉีดโบท็อกลงบนผิวบริเวณกรามเพื่อให้ให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลง โดยหลักการทำงานของโบท็อกนั้นจะออกฤทธิ์ไปยังระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามทำงานน้อยลง ใบหน้าดูเรียวเล็กยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การฉีดโบท็อกไม่สามารถลดไขมันบริเวณขอบกรามหรือเหนียงด้วย หรือหากคุณมีกรามขนาดใหญ่ตามพันธุกรรมอยู่แล้ว อาจต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดกรามแทน

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม กี่วันเห็นผล

โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลหลังการฉีดไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนหลังฉีดค่ะ ส่วนผลลัพธ์จะยังคงอยู่ได้ถึงประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของโบท็อกและพฤติกรรมการดูแลตัวเองของผู้เข้ารับการฉีดค่ะ หากคุณดูแลตัวเองดีพอ ผลลัพธ์ก็จะเป็นไปตามอายุของโบท็อก แต่หากคุณละเลยการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ก็อาจต้องกลับมาฉีดโบท็อกไวกว่าอายุโบท็อก

ฉีดโบลดกรามเจ็บไหม

แน่นอนว่าการฉีดเข็มเข้าสู่ผิวหนังย่อมก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บ แต่แพทย์จะทายาชาและประคบน้ำแข็งให้ทั้งก่อนฉีดและขณะฉีดเพื่อให้กระจายยาไม่ให้เป็นวงกว้าง ดังนั้นความเจ็บจึงค่อนข้างน้อยและทนได้ค่ะ

โบท็อกลดกรามเหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามเยอะ
  • ผู้ที่ต้องการลดขนาดกรามโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการลดขนาดกรามโดยเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว

โบท็อกกราม ควรฉีดกี่ยูนิต

โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะฉีดให้ประมาณ 50-100 ยูนิต แต่หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ เลือกฉีดในปริมาณไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น ปากเบี้ยว หน้าตึง

ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกกราม

  • ผิวเป็นผื่นแดง ใบหน้ามีรอยช้ำ เป็นอาการที่เกิดขึ้นปกติ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ใบหน้าดูแข็ง ไม่สามารถควบคุมได้ตามใจ
  • หนังตาตก หางคิ้วกระดก
  • ปากเบี้ยว มุมปากตกชั่วคราว ยิ้มได้ไม่สุด
  • อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เวียนศีรษะ ปวดศีรษะต่อเนื่อง
  • เสี่ยงต่อการติดเชื้ออักเสบ (กรณีที่ฉีดโบท็อกไม่ได้มาตรฐานของหมอกระเป๋า)

เตรียมตัวก่อนฉีดโบอย่างไรดี

  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาประจำตัว
  • หากมีความวิตกกังวล กลัวเข็ม แจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
  • พักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7-8 ชั่วโมง
  • งดทาครีมบำรุงที่มีสารวิตามิน A เช่น สารเรตินอยด์ (Retinoid) กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid)
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนฉีด
  • งดโกนหนวดหรือเลเซอร์ผิวหน้าเพื่อป้องกันการเกิดแผลและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ดูแลหลังฉีดโบท็อกอย่างไรได้บ้าง

  • นอนหมอนสูงในช่วงคืนแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันเลือดไหลไปเลี้ยงที่ใใบหน้ามากเกินไป และงดนอนหงายหลังฉีดประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  • บริหารใบหน้าด้วยการยิ้ม ยักคิ้ว หรือเคี้ยว เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น
  • ห้ามประคบเย็น เพราะความเย็นจะขัดขวางการดูดซึมของตัวยาโบท็อก
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าได้รับอุณหภูมิสูงอย่างน้อย 14 วัน ได้แก่ อาบน้ำอุ่น ซาวน่า ออกกำลังกาย
  • รับประทานอาหารปรุงสุกทุกครั้ง
  • งดทานอาหารรสจัด เพราะอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนทั่วใบหน้า
  • งดทานอาหารเสริมและวิตามินบางชนิดประมาณ 7-10 วัน หากจำเป็นต้องทาน ควรปรึกษาแพทย์
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากมีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด อีกทั้งมีสารที่ลดประสิทธิภาพของโบท็อกด้วย

ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว ควรรู้อะไรบ้าง !!

ถาม – ตอบ เรื่องโบท็อกซ์ !!!

ควรฉีดโบท็อกซ์ ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ !!!

โบท็อกซ์คืออะไร ช่วยเรื่องผิวหน้าได้อย่างไร ? ดูแลยังไงถึงจะเห็นผลยาวนาน ?

6 คำถามฮิต ฟิลเลอร์ใต้ตา !!

ฟิลเลอร์คืออะไร อันตรายหรือไม่ มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง ?

รู้ก่อนฉีด ฟิลเลอร์คืออะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?

“ฟิลเลอร์” เติมเต็มใบหน้า เพื่อความสวยทุกมิติ

ขั้นตอนการทำ Ulthera และวิธีเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera

ดูแลผิวหน้าวัย 40 หัตถการไหนตอบโจทย์สาว ๆ วัยนี้บ้าง มาดู !

Sculptra คืออะไร?

Sculptra เหมาะกับใคร สาว ๆ วัยไหนทำแล้วเห็นผลไว !!

SCULPTRA คือ อะไร ? ช่วยเรื่องอะไร ?

Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร ?