โบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? และควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

โบท็อกซ์ Botulinum toxin A มีคุณสมบัติมากมาย ดังนี้

  1. ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง
    • ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น
    • ลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย
    • ลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลงเห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น 
  2. คลายขนาดกล้ามเนื้อที่หดตัวให้เรียบตึงขึ้น
    • รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว
    • ผิวหนังบริเวณคอ มือ ที่เหี่ยวย่น โบท็อกซ์ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูเด็กขึ้น 
  3. ลิฟท์กรอบหน้า
    • ยกกระชับใบหน้า ไม่ให้หย่อนคล้อย
    • ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น 
  4. ฉีดใต้วงแขน รักแร้
    • ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง
    • ระงับกลิ่นกายได้อีกด้วย 
  5. รักษาโรคไมเกรนเรื้อรัง
    • ระงับอาการปวดให้น้อยลง
    • ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย 
  6. รักษาอาการตากระตุก
    • ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วขณะ ช่วยลดอาการตากระตุกได้ 


ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันถึงจะเห็นผล ?

  • โบท็อก ลดริ้วรอย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 2 สัปดาห์ โดยหลังฉีดไป 3 วันจะเริ่มรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด
  • โบท็อก ลดกราม ลดน่อง จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ 2 ขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
  • โบท็อกรักแร้ ลดกลิ่นกาย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน


ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ซึ่งปกติแล้วโบท็อกจะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน โดยการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  1. ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ฉีด หากเลือกโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนสูง 
  2. ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล่ น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

หลายคนจะมีความกังวลใจว่าเมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาใหญ่กว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะโบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดไปทำงานลดลง ขนาดกล้ามเนื้อจึงเล็กลง เมื่อหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะกลับมาทำงานเพิ่มขึ้น ขนาดกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานมากก็มีโอกาสสูงที่มัดกล้ามเนื้อจะมีขนาดกลับมาเท่าเดิม



เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดโบท็อกซ์

  • ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ 
  • งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด 
  • สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ 
  • ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก ๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันไป 
  • หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์

    โบท็อกซ์คืออะไร ช่วยเรื่องผิวหน้าได้อย่างไร ? ดูแลยังไงถึงจะเห็นผลยาวนาน ?

รู้จักโบท็อกซ์ Nabota กล่องดำกับกล่องแดงต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกซ์คืออะไร ข้อดี-เสีย ของการฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ Nabota ดีไหม ?

ฉีดโบท็อกซ์ดีอย่างไร วิธีดูแลให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนาน

บอกลาปัญหากลิ่นกาย ด้วย “โบท็อกซ์รักแร้”