ปากกาลดน้ำหนัก ตัวเลือกใหม่ช่วยลดหิว ดูแลควบคุมโดยแพทย์
ควบคุมน้ำหนักแทบตายแต่ไม่เห็นผลสักที เชื่อว่าหลายคนคงเผชิญกับปัญหาบั่นทอนจิตใจนี้มานานนับปี แต่จะไปดูดไขมัน ยกกระชับสัดส่วน กินยาลดน้ำหนัก หรือลดขนาดกระเพาะอาหารก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ใช่สำหรับตัวเอง
ในปัจจุบันได้มีตัวเลือกใหม่ในการช่วยควบคุมน้ำหนักที่น่าสนใจ นั่นคือ “ปากกาลดน้ำหนัก” ซึ่งเป็นอีกอุปกรณ์ช่วยเร่งรัดให้ร่างกายของเราปรับสมดุลภายในเพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการลดน้ำหนักมากขึ้น
ปากกาลดน้ำหนักนั้นทำงานอย่างไร ปลอดภัยมากแค่ไหน แล้วมีวิธีการใช้งานอย่างไรบ้าง
ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) หรือบางคนอาจเรียกว่า “ปากกาควบคุมน้ำหนัก” คือ ด้ามปากกาที่บรรจุสารยาที่มีจุดมุ่งหมายในควบคุมน้ำหนัก ลดความอยากอาหาร จนผู้รับสารกินอาหารน้อยลงในที่สุด
หลักการทำงานของปากกาลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนักจะมีลักษณะเป็นด้ามปากกาที่ส่วนปลายจะมีเข็มขนาดเล็กคล้ายหมุดติดกระดาษติดตั้งอยู่ ผู้ใช้ปากกาจะต้องจิ้มเข็มลงไปใต้ผิวหนังเพื่อเดินสารยาเข้าสู่ร่างกาย โดยสามารถจิ้มเข็มได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทำให้แต่อย่างใด บริเวณที่นิยมฉีด ได้แก่ หน้าท้อง สะโพก หรือต้นขา
ในปัจจุบันสารยาที่นิยมบรรจุใส่ในปากกาลดน้ำหนักก็คือ “สารลิรากลูไทด์ (Liraglutide)” ซึ่งเป็นสารยาที่จะไปลดการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนในระบบทางเดินอาหารของร่างกาย ส่งผลทำให้ผู้ใช้ปากการู้สึกอิ่มท้องยาวนานขึ้น ลดความรู้สึกอยากอาหาร และปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด ทำให้พฤติกรรมกินจุกจิกลดน้อยลง ช่วยให้ผู้ที่กำลังวางแผนลดน้ำหนัก สามารถทำตามแผนได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากสารยาลิรากลูไทด์ อีกสารยาที่ใช้ในปากกาลดน้ำหนักเหมือนกันก็คือ “สารยาเซมากลูไทด์ (Semaglutide)” ซึ่งเป็นตัวยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ยังสามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาถึงชนิดของสารยาที่บรรจุในปากกาลดน้ำหนักให้กับผู้เข้ารับบริการเอง เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและเงื่อนไขในการใช้งานไม่เหมือนกัน
ปากกาลดน้ำหนักมีกี่ประเภท?
ปากกาลดน้ำหนักที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบันเป็นมีอยู่รูปแบบเดียว คือ เป็นด้ามปากกาที่ส่วนปลายมีเข็มขนาดเล็กสำหรับจิ้มลงใต้ผิว ความแตกต่างของปากกาดลดน้ำหนักอาจอยู่ที่สารยาที่บรรจุอยู่ในปากกา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินถึงสารยาตัวที่เหมาะสมรวมถึงปริมาณที่ใช้แล้วเห็นผลต่อการลดน้ำหนักเอง
ปากกาลดน้ำหนักเหมาะกับใคร?
ปากกาลดน้ำหนัก อาจเหมาะกับผู้ที่มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ผู้ที่อยากให้การลดน้ำหนักเห็นผลและอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีปัญหากินจุกจิก หิวบ่อย และอยากลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง
- ผู้ที่เคยลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ มาก่อนแต่ยังไม่เห็นผล และต้องการตัวช่วยอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้น้ำหนักตัวลดลงได้สำเร็จมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักที่เหมาะสมที่สุด คือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ปากกาลดน้ำหนัก จึงเป็นเพียงหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและต้องมีแพทย์เป็นผู้พิจารณาเท่านั้น
ปากกาลดน้ำหนักไม่เหมาะกับใคร?
ปากกาลดน้ำหนักเปรียบเสมือนการใช้ยาเข้ามาเป็นตัวช่วย ผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพบางประการจะไม่สามารถใช้ปากกาชนิดนี้ได้ หรือจึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนใช้ปากกาลดน้ำหนัก มิฉะนั้นปากกาอาจไปส่งผลกระทบต่อโรคประจำตัวหรือสุขภาพที่เป็นอยู่ได้
โดยผู้ที่อาจไม่เหมาะกับปากกาลดน้ำหนักหรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ อาจมีดังนี้ เช่น
- สตรีมีครรภ์ สตรีที่กำลังให้นมบุตร รวมถึงสตรีที่กำลังวางแผนจะมีบุตรในอนาคต
- เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ผู้ที่ใช้ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด
- โรคมะเร็งไทรอยด์ (Medullary Thyroid Carcinoma)
- ผู้ที่มีภาวะแพ้สารยาลิรากลูไทด์
- ผู้ที่มียาประจำตัวที่มีสารประกอบของฮอร์โมน GLP-1 รวมอยู่ด้วย
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือความผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เช่น ภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า (Gastroparesis)
- ผู้ที่เคยหรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับ ตับอ่อน และไต
- ผู้ที่เคยหรือเป็นโรคและภาวะทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า
วิธีใช้ปากกาลดน้ำหนัก
หลังจากปรึกษาแพทย์แล้วว่าสามารถใช้ปากกาลดน้ำหนักได้ แพทย์อาจแนะนำวิธีการใช้ให้ ดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบปากกาเสียก่อน โดยถอดปลอกปากกาออก ตรวจดูสารยาที่บรรจุอยู่ภายในซึ่งต้องเป็นของเหลวเนื้อใส ไม่มีสีเจือปน
- ในบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับมา จะมีชิ้นส่วนเข็มใส่แยกออกจากปากกา ให้ดึงส่วนแผ่นกระดาษที่ปิดอยู่ตรงก้นเข็มออก แล้วใส่หัวเข็มลงไปที่หัวปากกา กดน้ำหนักนิ้วลงเล็กน้อยเพื่อให้เข็มลงล็อกสนิทกับหัวปากกา
- ดึงปลอกพลาสติกปิดหัวเข็มชั้นออก ระมัดระวังอย่าให้เข็มงอ ทู่ หรือชำรุด
- ตรวจสอบการไหลของสารยาในปากกา ด้วยการหมุนก้านปากกาส่วนท้ายให้แถบสีขาวขึ้นสัญลักษณ์จุด 2 จุดกับ 1 ขีด แล้วแหงนปลายปากกาขึ้นด้านบน กดก้นปากกาให้แถบสีขาวขึ้นสัญลักษณ์เลข 0 อีกครั้ง สังเกตว่าที่ปลายเข็มมีสารยาหยุดออกมาหรือไม่ หากหยดก็แสดงว่าการไหลของสารยาเป็นปกติใช้ได้
- ตั้งปริมาณยาที่ต้องการจะฉีด ด้วยการหมุนก้านปากกาส่วนท้ายจนแถบสีขาวขึ้นตัวเลขปริมาณยาที่จะฉีด เช่น 0.6 mg หรือ 1.2 mg
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดยาด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ
- จิ้มเข็มฉีดยาลงไปที่ผิว จากนั้นกดก้นปากกาค้างไว้ สังเกตดูสัญลักษณ์ตรงแถบสีขาวที่ต้องเลื่อนจากเลขปริมาณยากลับไปเป็นเลข 0 อีกครั้ง แล้วนับ 1-6 ช้าๆ แล้วจึงค่อยถอนเข็มออกจากผิวหนัง
- ใส่ปลอกครอบเข็มฉีดยาแล้วกดให้แน่น จากนั้นถอดหัวเข็มออกจากหัวปากกาเพื่อนำไปทิ้ง ใส่ปลอกปากกากลับเข้าไป เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
ปากกาลดน้ำหนักปลอดภัยไหม?
ปากกาลดน้ำหนักเป็นวิธีช่วยการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย หากใช้ปากกาลดน้ำหนักของแท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา รวมถึงอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ มีการนัดหมายกลับมาดูการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักอย่างเสมอ
ซื้อปากกาลดน้ำหนักมาใช้เองได้ไหม?
คุณไม่ควรซื้อปากกาลดน้ำหนักมาใช้เองโดยเด็ดขาด เพราะอาจได้ปากกาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน จนเกิดการติดเชื้อขึ้นได้
นอกจากนี้ การใช้ปากกาลดน้ำหนักโดยไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล อาจทำให้สารในปากกาส่งผลกระทบกับโรคประจำตัวหรือสุขภาพของผู้ที่ใช้ปากกาลดน้ำหนักได้
ผลข้างเคียงของปากกาลดน้ำหนัก
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไปในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังใช้ปากกาได้แก่
- คลื่นไส้อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- ปวดท้อง
- ท้องผูก
- ท้องเดิน
และขณะเดียวกันการใช้ปากกาลดน้ำหนักก็อาจก่อความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของระบบของร่างกายภายหลังจากใช้ปากกาได้อีกด้วย เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาการไตวาย ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ภาวะซึมเศร้ารุนแรงขึ้น เสี่ยงเกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่การใช้ปากกาลดน้ำหนักจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
และการใช้ปากกาลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่สามารถช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณสำเร็จได้ หากปราศจากวินัยในการดูแลตนเองด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การเลือกกินอาหารที่ไขมันต่ำ การออกกำลังกายอยู่เสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ
ปากกาคุมหิว Slimming Pen ลดน้ำหนักได้จริงหรือ ?