ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หลายคนที่กำลังตัดสินใจจะดูแลใบหน้าด้วยการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย อาจไม่รู้ว่าการฉีดโบท็อกมีข้อดีมากน้อยเพียงใด ใบหน้าของเราเหมาะกับการฉีดหรือไม่ ?
การฉีดโบท็อกซ์คืออะไร
โบท็อกซ์หรือ Botulinum Toxin เป็นสารสกัดที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแรงและไม่สามารถหดตัวได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นดูเรียบกระชับ ริ้วรอยดูลดลง โบท็อกเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2 – 3 วัน เห็นผลสูงสุดในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 3 – 4 เดือน โบท็อกซ์เป็นสารสกัดที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและไม่สะสมอยู่ในร่างกาย เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งโบท็อกซ์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีดมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ปวดศีรษะ, รู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ มีรอยฟกช้ำจากการใช้เข็มฉีดยาบริเวณหางตา, อาการคิ้วหรือหนังตาตก, ปวดบวมบริเวณที่ฉีดและกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความชำนาญในการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการดูแลตัวเองของคนไข้ แต่เนื่องจากมีฤทธิ์ไม่ถาวรจึงทำให้ผู้ป่วยต้องรักษาซ้ำ ทั้งนี้หากติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อโบท็อกซ์
โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง ?
โบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าและผู้ที่ต้องการดูแลใบหน้าให้กระชับยิ่งขึ้น สามารถเริ่มฉีดโบท็อกได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะคอลลาเจนในร่างกายของเราก็จะลดน้อยลงไปตามธรรมชาติเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน นอกจากอายุแล้วยังมีปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต, ภาวะความเครียด, แสงแดดและมลภาวะรอบตัว ล้วนแต่ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยฝังลึก ดังนั้นการฉีดตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยชะลอริ้วรอยและป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อยตามวัยได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อน
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ?
- ลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและลำคอให้ตื้นขึ้น
- สร้างความมั่นใจให้คนไข้ขณะยิ้มหรือแสดงสีหน้า
- รักษาภาวะความผิดปกติจากการทำงานมากเกินไปของกล้ามเนื้อ ได้แก่ ตาเข, หนังตากระตุก
- รักษาอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน หรือปวดจากความเครียด
- รักษาภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรัง
- รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ
- ช่วยลดเหงื่อได้ในกรณีที่ฉีดโบท็อกบริเวณรักแร้
ระยะเวลาของการฉีดโบท็อกซ์
- โบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลภายใน 3 – 7 วัน เมื่อครบ 14 วัน จะเห็นผลชัดเจนที่สุด
- โบท็อกซ์ยกกระชับหน้าจะเริ่มเห็นผลภายใน 1 เดือน และเห็นผลชัดเจนภายใน 2 – 3 เดือน
- เมื่อฉีดแล้วโบท็อกซ์จะอยู่ได้นาน 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของโบท็อกและวิธีดูแลตัวเองของคนไข้
คำแนะนำหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ?
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น, ไดร์เป่าผม, ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ต้องสัมผัสความร้อนอย่างน้อย 14 วัน
- งดทานอาหารเสริมและวิตามินบางชนิดประมาณ 7 – 10 วัน หากจำเป็นต้องใช้ประจำควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลา 7 วัน
- งดการนวดหน้าหรือทำเลเซอร์ เป็นเวลา 14 วัน
- งดนอนราบประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายหนัก 7 วัน
- งดการก้มหัวลงต่ำ
- งดทานอาหารรสจัด
- บริหารใบหน้าด้วยการยิ้มเยอะ ๆ ยักคิ้ว หรือเคี้ยว
- ห้ามประคบเย็น เนื่องจากขัดขวางการดูดซึมของตัวยา
- หากพบความผิดปกติบนใบหน้า ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
โบท็อกไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
เลือกคลินิกฉีด Botox อย่างไรให้มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน
แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยนั้นจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากนัก แต่ควรระวังโบท็อกซ์ที่มีราคาถูกกว่าปกติ เพราะอาจเสี่ยงกับการเจอโบท็อกซ์ปลอม ไม่ได้คุณภาพ มาพร้อมสารปนเปื้อน ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมาก ๆ แนะนำว่าควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ที่ Amenla Clinic ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถตรวจสอบโบท็อกซ์ได้ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ความสวยตามที่ต้องการโดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย
โบท็อกซ์คืออะไร ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ ?
บอกลาปัญหากลิ่นกาย ด้วย “โบท็อกซ์รักแร้”
ฉีดโบท็อกซ์ดีอย่างไร วิธีดูแลให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนาน